[Slide ดร.สมเกียรติ-NotebookLM] นโยบายสาธารณะเพื่อสังคมที่ดีกว่า
มาจากสไลด์ของ ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจจะวณิชย์ ที่ไปอบรมให้ผู้เข้าร่วมโครงการ Mahidol Change Agent#1 จัดโดย MUSEF - ส่วนตัวทำแต่งานในห้องปฏิบัติการในระดับโมเลกุล ไม่ได้มองในเรื่องภาพใหญ่มากนัก แต่เมื่อทำงานไปนาน ๆ เข้า ด้วยเอกสารต่าง ๆ สามารถเข้าถึงได้ทางออนไลน์ และได้รับโอกาสได้ไปอบรมเพิ่มเติมที่สถาบันวิจัยประชากรฯ มหาวิทยาลัยมหิดล รวมไปถึงได้เรียนออนไลน์คอร์สของจุฬา เรื่องประชากรศาสตร์ และได้มีโอกาสทำงานทางด้าน public health โดยเน้นเรื่องการรับรู้ทางสังคม เลยมีความสนใจทางด้านนโยบายมากขึ้น โดยเฉพาะนโยบาบที่ส่งผลกระทบต่อคนโดยส่วนใหญ่ - ช่วงนี้ก็เป็นจังหว่ะอันดีเลยโยนสไลด์เข้าไปใน NotebookLM ให้มันช่วยเขียนโน้ตออกมา และเราก็ถามไปนิด ๆ หน่อย ๆ เพื่อเช็คความเข้าใจว่า มันเข้าใจได้ถูก
---
แหล่งข้อมูลเหล่านี้มุ่งเน้นที่ความสำเร็จและความล้มเหลวของนโยบายสาธารณะในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเน้นย้ำถึง องค์ประกอบสำคัญสามประการสำหรับนโยบายที่ดี: ต้อง มีประโยชน์ชัดเจน (แก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า), สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ในระบบราชการ (โดยใช้เทคโนโลยีและการออกแบบที่เรียบง่าย), และ ได้รับการสนับสนุนทางการเมือง หรือ "ขายออก" ได้ (จัดการกับผลประโยชน์และความขัดแย้งของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย) นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึง ความจำเป็นในการวิเคราะห์ปัญหาอย่างลึกซึ้ง เกินกว่าปรากฏการณ์ และ การเอาชนะอุปสรรคจากระบบราชการ (“ไซโลรัฐ”) เพื่อให้เกิดการพัฒนาและดำเนินนโยบายที่ยั่งยืน แหล่งข้อมูลยังรวมถึง แบบฟอร์มการนำเสนอโครงการ สำหรับรางวัลหน่วยงานต้นแบบสร้างเสริมสุขภาพ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการประยุกต์ใช้หลักการพัฒนานโยบายที่ดีในบริบทของการส่งเสริมสุขภาพ.
สรุปประเด็นหลัก: นโยบายสาธารณะเพื่อสังคมที่ดีกว่า
- ภาครัฐดำเนินนโยบายด้วยหลากหลายวิธีการ เช่น:
- จัดสรรงบประมาณ
- ให้สิทธิประโยชน์
- กำหนดกติกา
- เข้าร่วมในตลาด
- ประสานงาน
- สร้างค่านิยมและบรรยากาศ
- ประโยชน์ชัด (Technically Correct): นโยบายต้องแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ("effective") มีประโยชน์มากกว่าเสีย ("efficient") ทำให้ "เค้ก" ใหญ่ขึ้น ลดความไร้ประสิทธิภาพในระบบ และเกลี่ยประโยชน์ที่เป็นธรรม ("fair") การมี "ประโยชน์ชัด" เกิดขึ้นได้เมื่อยึดหลักวิชาการ มีหลักฐานภาคปฏิบัติ และคิดทางเลือกอย่างครบถ้วน
- ปฏิบัติได้ (Bureaucratically Implementable): นโยบายต้องสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงในระบบราชการ เอกสารยกตัวอย่างเช่น เอสโตเนียที่ใช้บัตรประจำตัวใบเดียวในการเข้าถึงบริการรัฐเกือบทั้งหมด หรือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่ "ทำสิ่งเป็นไปไม่ได้...ให้เป็นไปได้" ด้วยหลักการ design thinking และ agility แนวทางสำคัญคือการ "สร้างนโยบายที่ปฏิบัติง่าย" และ "ใช้เทคโนโลยีเป็นตัวช่วย" (เช่น การติด GPS รถใหญ่ช่วยลดอุบัติเหตุ)
- ขายออก (Politically Supportable): นโยบายต้องได้รับการสนับสนุนทางการเมืองและจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพราะ "การเมือง...เรื่องประสานความแตกต่าง" ทั้งด้านผลประโยชน์และความเชื่อ หาก "เค้กใหญ่ขึ้น" ผลประโยชน์จะลงตัวง่ายขึ้น การลดแรงต้านจากผู้แพ้ทำได้โดยให้เวลาเปลี่ยนผ่าน ชดเชยผู้เสียหาย หรือเปลี่ยนความต้องการ การทำความเข้าใจ "ผลประโยชน์แต่ละฝ่าย" เป็นสิ่งสำคัญในการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติได้
- ปัญหาการขออนุญาตขายไข่: "พ.ร.บ. โรคระบาดสัตว์" ที่กำหนดให้ผู้ค้าและผู้เคลื่อนย้ายไข่ต้องขออนุญาต สะท้อนถึงกฎระเบียบที่อาจสร้างภาระโดยไม่จำเป็น โดยมีที่มาจากความกังวลเรื่อง "หวัดนก-โรคระบาด"
- ปัญหาคนไม่ยอมมีลูก: ไม่ใช่แค่ปัญหาของไทย แต่เป็นแนวโน้มทั่วโลกที่เกิดจากหญิงทำงานนอกบ้านเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจพัฒนา ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรสูงขึ้น แม้รัฐพยายามช่วยเหลือ (เช่น สิงคโปร์) แต่ก็ยังไม่สำเร็จมากนัก ปัญหานี้ส่งผลให้ "เศรษฐกิจโตช้า...ภาระการคลังสูง" แนวทางแก้ไขที่นำเสนอคือการเน้น "คุณภาพเด็กเล็ก คุณภาพการศึกษา" และ "ปริมาณเลิกลุ้น...ต้องหนุนคุณภาพ" รวมถึงการทบทวนวิธีลดแรงงานและยืดอายุเกษียณ
- ปัญหารถติดในกรุงเทพฯ: กรุงเทพฯ "ติดอันดับที่ 2 ในเอเชีย" โดยใช้เวลาเดินทาง 10 กม. ถึง 21.4 นาที และเสียเวลา 108 ชั่วโมง/ปี/คน แนวคิด "ค่ารถติด" (Congestion Charge) ที่นิวยอร์กประสบความสำเร็จ อาจเป็นทางเลือกหนึ่ง
- ปัญหาฝุ่นพิษ: ปัญหาที่ "ทุกปี (ไม่) ต้องลุ้น" เกิดจาก "คิดไม่ทะลุ" (เช่น การติดตั้งเครื่องวัดอากาศหรือมาตรการกว้างๆ) และ "ไม่ตอบโจทย์" ของระบบราชการที่ทำงานแบบไซโล ขาดการบูรณาการ
- การหาทางเลือก: ควรสรรหาทางเลือกจากทฤษฎี ประสบการณ์ต่างประเทศ (เช่น สิงคโปร์แก้คอลเซ็นเตอร์ ไต้หวันใช้ล็อตเตอรี่ อิสราเอลแก้ขาดน้ำ เอสโตเนียใช้บัตรประชาชนใบเดียว ญี่ปุ่นลดอุบัติเหตุถนน) และประสบการณ์ไทย
- การทำงานกับราชการ: แนะนำ 3 แนวทางคือ การช่วยออกแบบนโยบายให้ปฏิบัติง่าย การช่วยพัฒนาระบบโดยใช้เทคโนโลยี และการเข้าใจ 3 หน้าที่ของระบบราชการ (นโยบาย-ยุทธศาสตร์, กำกับดูแล, ปฏิบัติการ-บริการประชาชน)
- การสื่อสารกับประชาชน: การจะ "ขายนโยบาย" ให้ "คุณยายต้องเข้าใจ" คือต้องทำให้เห็นว่านโยบาย "เกี่ยวอะไรกับยาย" "ถ้าไม่แก้ไขนโยบาย...ลูกหลานยายเดือดร้อนอะไร" และจะให้ "ยายช่วยอะไร"
- สามเหลี่ยมเคลื่อน...เขยื้อนภูเขา: แนวคิดของ ศ. นพ. ประเวศ วะสี ที่ประกอบด้วย "สร้างความรู้" "ขับเคลื่อนสังคม" และ "ผลักดันทางการเมือง" เป็นกลไกสำคัญในการเปลี่ยนแปลง
- ภาษีที่ดิน: เป็นตัวอย่างของนโยบายที่มีแนวคิดมายาวนาน (24 ปี 12 รัฐบาล) แต่ "เก็บยากเต็มที" เนื่องจาก "ผลประโยชน์กระจุกชัด...รวมตัวปฏิบัติการง่าย" ในขณะที่ "คนมาก...ยากรวมตัว"
จากข้อมูลในแหล่งที่มา "คุณลุง" และ "คุณยาย" น่าจะหมายถึงกลุ่มบุคคลที่มีบทบาทแตกต่างกันในกระบวนการกำหนดและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะครับ
- คุณลุง น่าจะหมายถึง ผู้มีอำนาจตัดสินใจ ผู้บริหาร หรือผู้นำทางการเมือง/ข้าราชการระดับสูง ที่มีบทบาทในการรับฟังข้อเสนอ ออกแบบ และสั่งการให้นโยบายต่างๆ ถูกนำไปปฏิบัติ ในส่วนที่อธิบายถึงการทำให้นโยบาย "ขายออก" ได้ มีคำถามที่มุ่งไปที่คุณลุงว่า "จะให้ลุงทำอะไร?", "จะให้ลุงทำอย่างไร?", "จะให้ลุงไปสั่งใคร?" ซึ่งบ่งชี้ถึงบทบาทในการกำหนดทิศทางและการปฏิบัติการ
- คุณยาย น่าจะหมายถึง ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากนโยบาย และเป็นกลุ่มที่นโยบายจำเป็นต้องได้รับความเข้าใจและการสนับสนุน ในส่วนที่เกี่ยวกับการ "ขายนโยบาย" ให้ "คุณยายต้องเข้าใจ" มีคำถามที่เน้นไปที่ความเกี่ยวข้องของนโยบายกับชีวิตของคุณยาย เช่น "เกี่ยวอะไรกับยาย?" และ "ถ้าไม่แก้ไขนโยบาย... ลูกหลานยายเดือดร้อนอะไร?" ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคุณยายเป็นตัวแทนของภาคประชาชนที่นโยบายต้องเข้าถึงและสร้างความเข้าใจ เพื่อให้เกิดการยอมรับหรือการสนับสนุนให้ช่วยขับเคลื่อนนโยบายต่อไปได้
- ทำไมนโยบายสาธารณะจึงมีความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ในสังคม? นโยบายสาธารณะช่วยกำหนดทิศทางของหน่วยงานรัฐและมีผลในวงกว้าง เพื่อสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน การมองลึกกว่าปรากฏการณ์และวิเคราะห์แก้ปัญหาอย่างเป็นระบบผ่านนโยบายจึงจำเป็นเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดซ้ำซาก
- ประเทศไทยถูกระบุว่า "ไม่ (ค่อย) มีสิ่งนี้" ในบริบทของนโยบายสาธารณะ "สิ่งนี้" หมายถึงอะไร? "สิ่งนี้" อ้างถึงกลไก กระบวนการ หรือคุณลักษณะที่จำเป็นในการสร้างนโยบายสาธารณะที่มีประสิทธิภาพและสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง ซึ่งหมายรวมถึงการวิเคราะห์ปัญหาอย่างลึกซึ้ง การออกแบบที่ตอบสนองความต้องการ และการปรับเปลี่ยนค่านิยมหรือวิธีคิด.
- ภาครัฐมีบทบาทอย่างไรในการปฏิบัติการทางนโยบาย? จงยกตัวอย่าง 2 บทบาท. ภาครัฐมีบทบาทหลากหลายในการปฏิบัติการทางนโยบาย เช่น การจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนโครงการต่างๆ และการกำหนดกติกาหรือกฎระเบียบเพื่อควบคุมและกำกับดูแลกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม.
- นโยบายที่ "ประสบความสำเร็จ" ตามที่เอกสารระบุ ควรมีลักษณะอย่างไร? นโยบายที่ประสบความสำเร็จควรสามารถเปลี่ยนแปลงความเข้าใจผิด ปิดกั้นนโยบายที่เป็นปัญหา และพัฒนานโยบายที่ดีได้จริง ซึ่งรวมถึงการทำให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและแก้ไขปัญหาได้ตามเป้าหมาย.
- หลักการสำคัญ 3 ประการในการพัฒนานโยบายให้ "สำเร็จเบ็ดเสร็จใน APP" คืออะไร? หลักการสามประการคือ "ประโยชน์ชัด" (Technically Correct) หมายถึงแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ, "ปฏิบัติได้" (Bureaucratically implementable) หมายถึงสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงในระบบราชการ, และ "ขายออก" (Politically supportable) หมายถึงได้รับการสนับสนุนทางการเมือง.
- "ประโยชน์ชัด" ของนโยบายหมายถึงอะไรบ้าง? จงยกตัวอย่าง 2 ลักษณะ. "ประโยชน์ชัด" หมายถึงนโยบายที่สามารถแก้ปัญหาได้ตรงใจ (effective) และให้ผลประโยชน์มากกว่าต้นทุนที่เสียไป (efficient) โดยทำให้ "เค้ก" ใหญ่ขึ้นและลดความไม่มีประสิทธิภาพในระบบ.
- การที่ผู้ค้าไข่ต้องขออนุญาตตาม พ.ร.บ. โรคระบาดสัตว์ สะท้อนถึงปัญหาอะไรในการออกแบบนโยบาย? สะท้อนถึงการออกแบบนโยบายที่อาจมีขั้นตอนที่ซับซ้อนเกินความจำเป็นและเป็นภาระต่อประชาชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค แต่การบังคับใช้ในบางกรณีอาจสร้างความไม่สะดวกโดยไม่จำเป็น.
- ปัญหาอัตราการเกิดต่ำในประเทศไทยส่งผลกระทบอย่างไรต่อประเทศในระยะยาว? ปัญหานี้ส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตช้าลงและภาระการคลังสูงขึ้น เนื่องจากมีจำนวนประชากรวัยทำงานลดลงและสัดส่วนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ทำให้รัฐต้องแบกรับค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการมากขึ้น.
- "ไซโลรัฐ" ถูกระบุว่าเป็นปัญหาในการแก้ไขปัญหามลพิษ PM 2.5 "ไซโลรัฐ" หมายถึงอะไร? "ไซโลรัฐ" หมายถึงการที่หน่วยงานราชการต่างๆ ทำงานแยกส่วน ไม่ประสานงานหรือบูรณาการกัน ทำให้การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน เช่น มลพิษ PM 2.5 ซึ่งต้องการความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทำได้ยากหรือไม่สำเร็จ.
- ทำไมนโยบายจึงต้อง "ขายออก" ในทางการเมือง? นโยบายต้อง "ขายออก" เพื่อให้ได้รับการยอมรับและสนับสนุนจากผู้มีอำนาจทางการเมืองและประชาชน เพื่อให้สามารถผลักดันและนำไปปฏิบัติได้อย่างราบรื่น เนื่องจากนโยบายมักเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์และความเชื่อของกลุ่มต่างๆ.
- จงวิเคราะห์ปัญหา "ทำไมแก้ไม่หาย...รถเมล์สาย 8" โดยใช้กรอบแนวคิด "ตอบสนอง คาดหมาย ออกแบบ ปรับเปลี่ยนค่านิยม/วิธีคิด" ที่ปรากฏในเอกสาร และเสนอแนวทางแก้ไขที่เป็นไปได้
- อธิบายแนวคิด "ประโยชน์ชัด" "ปฏิบัติได้" และ "ขายออก" ในการพัฒนานโยบายที่ดี พร้อมยกตัวอย่างนโยบายที่ประสบความสำเร็จและไม่สำเร็จที่กล่าวถึงในเอกสาร เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของแต่ละองค์ประกอบ
- เอกสารกล่าวว่าประเทศไทย "ไม่ (ค่อย) มีสิ่งนี้" ในบริบทของนโยบายสาธารณะ จงวิเคราะห์ว่า "สิ่งนี้" คืออะไร และอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ประเทศไทยยังขาด "สิ่งนี้" พร้อมเสนอแนวทางในการสร้าง "สิ่งนี้" ให้เกิดขึ้น
- จากกรณีศึกษาปัญหาอัตราการเกิดต่ำและแนวคิดของศาสตราจารย์แกรี เบคเกอร์ จงวิเคราะห์ถึงความท้าทายในการแก้ไขปัญหาสังคมที่ซับซ้อนผ่านนโยบาย และเสนอทางเลือกนอกเหนือจากการมุ่งเน้น "ปริมาณ" เพื่อรับมือกับปัญหานี้
- อธิบายบทบาทของ "การเมือง" ในการผลักดันนโยบายให้ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะในประเด็น "ผลประโยชน์ลงตัวง่าย...ถ้าเค้กใหญ่ขึ้น" และ "ลดแรงต้านผู้แพ้อย่างไร...ให้ได้เดินต่อ" พร้อมทั้งระบุว่า "ใครคือผู้เล่น" บนเวทีนโยบาย และความสำคัญของการทำความเข้าใจพวกเขา
- นโยบายสาธารณะ (Public Policy): การกำหนดทิศทางของหน่วยงานรัฐที่มีผลทั่วไปในวงกว้าง เพื่อสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนให้กับสังคม
- ประโยชน์ชัด (Technically Correct): คุณลักษณะของนโยบายที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงใจ (effective) และมีประสิทธิภาพ (efficient) โดยให้ประโยชน์สูงกว่าต้นทุน และกระจายประโยชน์อย่างเป็นธรรม
- ปฏิบัติได้ (Bureaucratically implementable): คุณลักษณะของนโยบายที่สามารถนำไปปฏิบัติจริงได้ในระบบราชการ โดยไม่ติดขัดด้วยปัญหาเชิงระบบหรือโครงสร้าง
- ขายออก (Politically supportable): คุณลักษณะของนโยบายที่ได้รับการยอมรับและการสนับสนุนจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและกลุ่มการเมืองต่างๆ ทำให้สามารถผลักดันให้สำเร็จได้
- ไซโลรัฐ (Government Silos): ปัญหาการทำงานแยกส่วนของหน่วยงานราชการต่างๆ ที่ไม่ประสานงานหรือบูรณาการกัน ทำให้การแก้ไขปัญหาที่ต้องการความร่วมมือทำได้ยาก
- การแทรกแซงราคาข้าว: นโยบายที่รัฐเข้าควบคุมหรือกำหนดราคาสินค้าเกษตร เช่น ข้าว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรหรือรักษาเสถียรภาพราคา
- กิโยตินกฎระเบียบ (Regulatory Guillotine): การทบทวนและยกเลิกกฎหมาย กฎระเบียบ หรือข้อบังคับที่ไม่จำเป็น ล้าสมัย หรือเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานหรือการพัฒนา
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ: นโยบายของรัฐบาลที่มอบความช่วยเหลือทางการเงินหรือสิทธิประโยชน์ให้กับผู้มีรายได้น้อย โดยมีกลไกในการคัดกรองผู้มีสิทธิ์
- ค่ารถติด (Congestion Charge): ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ใช้รถที่ขับขี่เข้าสู่พื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น เพื่อลดปริมาณรถและส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ
- ปั๊มลูกมากขึ้น...ฟื้นประเทศไทย: แนวคิดที่เสนอว่าการเพิ่มอัตราการเกิดของประชากรเป็นสิ่งจำเป็นต่อการฟื้นฟูหรือพัฒนาประเทศในระยะยาว
- สามเหลี่ยมเคลื่อน...เขยื้อนภูเขา: แนวคิดที่อธิบายถึงกลไกการเปลี่ยนแปลงทางสังคมหรือนโยบายที่ต้องอาศัยการประสานงานระหว่าง "การสร้างความรู้" "การขับเคลื่อนสังคม" และ "การผลักดันทางการเมือง"
- แรงจูงใจ (Incentive): สิ่งกระตุ้นหรือผลตอบแทนที่จูงใจให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลกระทำการบางอย่าง
- การแลกได้แลกเสีย (Tradeoff): สถานการณ์ที่การได้มาซึ่งสิ่งหนึ่งจะต้องแลกกับการสูญเสียอีกสิ่งหนึ่งไป หรือต้องเลือกระหว่างทางเลือกที่มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน
เอกสารนี้สำรวจนโยบายสาธารณะ โดยเน้นถึงความสำคัญของการทำความเข้าใจและแก้ไขปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ผ่านการวิเคราะห์เชิงลึกที่เหนือกว่าปรากฏการณ์ภายนอก ในการสร้างนโยบายที่ประสบความสำเร็จนั้น "ประโยชน์ที่ชัดเจน" คือหัวใจสำคัญ ซึ่งหมายถึงการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การสร้างมูลค่าเพิ่มทางสังคม และการกระจายผลประโยชน์อย่างเป็นธรรม นอกจากนี้ การนำนโยบายไปปฏิบัติจริงในระบบราชการจำเป็นต้องอาศัยการออกแบบที่ง่ายต่อการดำเนินการและใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ เพื่อให้สามารถ "ขายออก" หรือได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนในสังคม บทความยังชี้ให้เห็นถึงความท้าทายในการผลักดันนโยบาย โดยเฉพาะเมื่อต้องจัดการกับผลประโยชน์ที่แตกต่างกัน และเสนอแนวทางในการลดแรงต้านของผู้ที่อาจได้รับผลกระทบทางลบ เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเดินหน้าต่อไปได้.
ปัจจัยชี้ขาดนโยบายสาธารณะไทย: สำเร็จหรือล้มเหลว
Detailed Briefing Document: Public Policy for a Better Society
This briefing document synthesizes key themes and essential concepts from the provided source, "MU-Public Policy for Better Society_อ.สมเกียรติ.pdf," focusing on the challenges and strategies for effective public policy in Thailand.
I. The Core Problem: Why Policies Fail or Are Absent
The document begins by highlighting a pervasive issue in Thailand: the persistent failure to resolve recurring problems, exemplified by the "unsolvable" issue of Bangkok's Bus No. 8. This failure is attributed to a lack of deep analysis and a tendency to address symptoms rather than root causes. The author asserts that "Thailand... (hardly) has this," referring to a robust, effective public policy framework.
The source then delves into what Thailand "has too much or too little of," implying that an imbalance contributes to policy dysfunction.
II. Defining Public Policy and Government Operations
Public policy is defined as:
- "The direction setting of state agencies"
- "Having a general, widespread effect"
- "To create 'security, prosperity, sustainability'"
It involves various government branches and levels: central, local, executive, legislative, judiciary, and independent organizations.
The document outlines six ways the government implements policy:
- Budget allocation
- Granting benefits
- Setting regulations
- Market participation
- Coordination
- Value and atmosphere creation
III. Measuring Policy Success and Key Examples
Policy success is characterized by:
- Changing misconceptions
- Blocking problematic policies
- Developing good policies
Examples of successful or progressing policies cited include:
- Successful/Effective:Establishment of Thai PBS
- "Guillotine" regulations (cutting red tape)
- Abolition of TM. 6 (immigration form)
- Regulating shipping costs
- Liberalizing the gold market
- Progressing/Starting to show results:Proposing Thailand's OECD membership
- Abolishing criminal checks law
- Establishing educational innovation areas
- Creating the Department of Rail
- Assisting the Revenue Department with tax collection
Conversely, the document notes that "happy families are all alike; every unhappy family is unhappy in its own way," quoting Leo Tolstoy, to suggest that policy failures might stem from unique, unaddressed issues.
IV. The "APP" Framework for Successful Policy Development
A successful policy should be "complete in an APP" (referencing a mobile application, implying seamless integration and functionality), embodying three crucial characteristics:
- "Technically Correct" (ประโยชน์ชัด - Clear Benefit):
- Effectiveness: Directly solves the problem ("แก้ปัญหาได้ตรงใจ").
- Efficiency: Benefits outweigh costs ("ได้มากกว่าเสีย").
- Economic Growth: "Makes the 'cake' bigger."
- System Optimization: Reduces inefficiency within the system.
- Social Welfare: "Social benefit" is higher than "cost."
- Fairness: Distributes benefits equitably ("เกลี่ยประโยชน์เป็นธรรม").
- To achieve clear benefits, policies must be:
- Non-arbitrary: Grounded in academic principles and practical evidence.
- Comprehensive: Consider all important alternatives.
- Equitably Distributed: Account for stakeholder incentives and tradeoffs.
- "Bureaucratically Implementable" (ปฏิบัติได้ - Practicable): This refers to the ability to execute the policy within the government system. Challenges include "siloed government" (หน่วยงานราชการทํางานแยกส่วน), leading to issues like:
- "T-thinking not thorough": Broad measures, lack of specific data (e.g., air quality monitoring).
- "B-not meeting the brief": Committee-based systems that fail to integrate work.
- The example of Estonia's digital transformation (single ID card for nearly all government services) is presented as a model for making the "impossible possible" through design thinking, agility, and a "virtual ministry." The UAE is also cited for its "nothing is impossible" mindset.
- Three approaches to working with the bureaucracy:
- Designing easily implementable policies: The "state welfare card" is discussed, highlighting the difficulty of targeting the poor versus the ease of excluding the non-poor.
- Using technology as an enabler: The GPS tracking of large vehicles in Thailand is presented as a successful example, leading to a significant reduction in road accidents and fatalities.
- A third unstated point, implied to be related to improving bureaucratic function.
- "Politically Supportable" (ขายออก - Saleable): This addresses the political feasibility and acceptance of a policy.
- Politics as Coordination of Differences: Policies must reconcile diverse interests and beliefs/identities.
- Win-Win Scenarios: Policies are easier to implement if they "make the cake bigger," allowing all parties to gain more, even if disproportionately.
- Mitigating Opposition: Strategies to reduce resistance from losers include:
- Providing transition periods and adaptation support.
- Testing in limited scope.
- Compensating those negatively affected.
- Changing demands (reframing the problem/solution).
- Key Policy Actors: The document lists various stakeholders, including consumers, taxpayers, citizens, political labor, civil servants, large and small businesses, and multinational corporations. Understanding each party's interests is crucial.
- The Dynamics of Group Influence: "Concentrated interests are clear... easy to mobilize for action," while "many people... difficult to organize." This explains why large businesses (often regulated) or farmers in developed countries can exert significant influence.
- Case Study: Land Tax: The stalled land tax legislation, debated for 24 years across 12 governments, is a prime example of political resistance, particularly when legislators themselves hold significant land assets.
- Democracy and Welfare: The document suggests that "welfare can arise... in a democracy."
- Communicating Policy to the Public: To "sell" a policy, it must be understandable to the average person, addressing questions like:
- "What does it have to do with Grandma?"
- "If the policy isn't fixed... how will Grandma's grandchildren suffer?"
- "How can Grandma help?"
- The "Moving Triangle" (สามเหลี่ยมเคลื่อน): Borrowing from Prof. Dr. Prawase Wasi, this concept outlines three pillars for societal change:
- Knowledge Creation (สร้างความรู้)
- Social Mobilization (ขับเคลื่อนสังคม)
- Political Advocacy (ผลักดันทางการเมือง)
- Ultimately, to gain political support, one must "understand interests and values," "find wins to make the proposal saleable," and "make politics play along."
V. Specific Policy Challenges Highlighted
- "Why Can't Bus No. 8 Be Fixed?": An opening rhetorical question setting the stage for deep policy analysis.
- "Why Sell Eggs and Need Permission?": This example illustrates bureaucratic red tape, citing the Animal Epidemic Act requiring permits for egg sales and movement due to bird flu concerns.
- "The Big Problem... People Not Having Babies": This section details the demographic crisis (not unique to Thailand), attributing it to increased female workforce participation, economic development, and the rising "cost of children."
- Nobel Laureate Gary Becker (1992): His work on the economics of the family is referenced.
- Government Efforts: Singapore's largely unsuccessful attempts to encourage marriage and subsidize childcare are noted.
- Consequences of Low Birth Rates: Slow economic growth and high fiscal burden.
- Solutions if Birth Rates Can't Increase: Focus on "quality" over "quantity" of children through improving early childhood and educational quality. Also, reconsider reducing labor needs in agriculture and industry, extending retirement age, and government saving/spending frugally.
- "Bangkok's Horrible Traffic... Who Knows How Bad?": Bangkok ranks 2nd in Asia for traffic, with a 10km commute taking 21.4 minutes and 108 hours lost per person annually. The idea of "congestion pricing" (like in New York) is explored as a potential solution.
- "Annual (Not) Waiting... Solving Toxic Dust": Highlights the recurring issue of air pollution, attributing failure to "thinking not thorough" and "not meeting the brief" within the bureaucracy. The "Clean Air Law" is mentioned as a potential hope.
Conclusion
The document offers a critical examination of public policy in Thailand, advocating for a systematic approach that transcends superficial problem-solving. It emphasizes the need for policies to be technically sound, practically implementable within the existing administrative framework, and politically viable through effective communication and stakeholder engagement. The examples and theoretical frameworks provided aim to guide policymakers towards creating a truly "better society."
Comments
Post a Comment