[CU-MOOC] การงบประมาณภาครัฐ (4)

ลิงค์บทเรียนก่อนหน้า https://t-lerksuthirat.blogspot.com/2025/07/cu-mooc-3.html

การงบประมาณภาครัฐ โดย :ศ. ดร.จรัส สุวรรณมาลา

https://mooc.chula.ac.th/course-detail/152

สรุป บทเรียนที่ 4 - การบริหารงบประมาณภาครัฐ: บทบาท กลไก และความสำเร็จ (จาก NotebookLM เหมือนเดิม) - ศัพท์ใหม่ที่ได้เรียนรู้ คือ ระบบ GFMIS - Government Fiscal Management Information System คงคล้าย ๆ ระบบการเก็บตัวอย่าง clinical specimens

แหล่งข้อมูลที่ได้รับมานั้น อธิบายถึงความสำคัญของการบริหารงบประมาณในภาครัฐ โดยเน้นย้ำว่าเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและมีผลกระทบอย่างมากต่อประสิทธิภาพและการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน ระบุว่าความสำเร็จของการบริหารงบประมาณเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของหลายหน่วยงาน ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่ หน่วยนโยบาย หน่วยปฏิบัติการ หน่วยจัดสรรและควบคุมงบประมาณ และหน่วยบริหารการเงิน มีเป้าหมายหลักสองประการ คือ การทำให้แผนงบประมาณประสบความสำเร็จสูงสุด และการควบคุมการใช้จ่ายเงินของรัฐให้มีประสิทธิภาพและถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงกลไกสำคัญ ในการบริหารงบประมาณซึ่งประกอบด้วยระบบควบคุมผลงานและประสิทธิภาพการจัดการ รวมถึงระบบการควบคุมทางการเงิน และ ชี้ให้เห็นถึงปัจจัยเสี่ยง ที่อาจทำให้การบริหารแผนงานล้มเหลว รวมถึงแนวทางการป้องกันแก้ไข และการนำระบบ GFMIS มาใช้ในการควบคุมทางการเงิน.

บทนำ

การบริหารงบประมาณเป็นหัวใจสำคัญของกระบวนการงบประมาณภาครัฐ เนื่องจากมีผลกระทบโดยตรงต่อความสำเร็จและประสิทธิภาพของการบริหารงานภาครัฐ รวมถึงเป็นจุดที่มีความเสี่ยงสูงต่อการทุจริตคอร์รัปชัน นอกจากนี้ยังมีความซับซ้อนสูงเพราะเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานและระบบปฏิบัติการที่เชื่อมโยงกัน

หน้าที่ความรับผิดชอบร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

การบริหารงบประมาณให้ประสบความสำเร็จเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของหลายหน่วยงาน สามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภทหลัก:

  1. หน่วยนโยบาย: เช่น กระทรวงและหน่วยงานเจ้าภาพยุทธศาสตร์ มีหน้าที่ "ควบคุม ดูแล ให้หน่วยปฏิบัติการดำเนินการตามแผนงานที่กำหนดไว้"
  2. หน่วยปฏิบัติงาน: คือ กรมและหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณ เป็นหน่วยงานที่ "ใช้เงินหรือก่อหนี้ผูกพัน เพื่อผลิตและส่งมอบ (บริการ) ให้แก่ประชาชน"
  3. หน่วยจัดสรรและควบคุมงบประมาณ: คือ สำนักงบประมาณ มีหน้าที่ "จัดสรรและกระจายเงินลงสู่หน่วยปฏิบัติการในพื้นที่ และให้ความเห็นชอบในการขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณ หรือปรับตัวเลขงบประมาณ"
  4. หน่วยบริหารการเงิน: คือ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง มีหน้าที่ "ให้ความเห็นชอบในการก่อหนี้ผูกพัน การเบิกจ่ายเงิน และการชำระหนี้... อีกทั้งมีหน้าที่บริหารสภาพคล่องให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ"

วัตถุประสงค์ของการบริหารงบประมาณ

วัตถุประสงค์หลักมี 2 ประการคือ:

  1. การดำเนินงานเพื่อให้แผนงบประมาณประสบผลสำเร็จมากที่สุด
  2. การควบคุมการใช้จ่ายเงินของรัฐให้มีประสิทธิภาพ ถูกต้องตามแผนงบประมาณที่ได้รับความเห็นชอบ ถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบ และปราศจาก "การทุจริตคอร์รัปชัน"

กลไกการบรรลุเป้าหมาย

รัฐต้องมีกลไกในการบริหารงบประมาณ ซึ่งประกอบด้วย 2 ระบบปฏิบัติการคู่ขนาน:

  1. ระบบควบคุมผลงานและประสิทธิภาพการจัดการ: เป็นกลไกที่ควบคุมให้หน่วยปฏิบัติการผลิตและส่งมอบบริการแก่ประชาชน และควบคุมให้แผนงานหรือประเด็นยุทธศาสตร์ประสบผลสำเร็จตามที่กำหนดไว้
  2. ระบบการควบคุมทางการเงิน: มีวัตถุประสงค์ 2 ประการ คือ "เพื่อกระจายอำนาจหรือมอบอำนาจให้หน่วยปฏิบัติงาน... สามารถบริหารงบประมาณได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ" และ "เพื่อควบคุมการใช้จ่ายเงินของหน่วยปฏิบัติงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของแผนงานและรายการที่กำหนดไว้ในแผนงบประมาณ"

ปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลให้การบริหารแผนงานล้มเหลว

มีอย่างน้อย 3 เรื่องด้วยกัน:

  1. หน่วยนโยบายไม่ทำหน้าที่หรือทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์: เช่น "กำหนดแผนยุทธศาสตร์ไม่ชัดเจน เป้าหมายไม่ชัดเจน" หรือ "อาจจะเกิดปัญหาเรื่องการสมคบคิดกับหน่วยปฏิบัติการเพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ"
  2. หน่วยปฏิบัติงานมีพฤติกรรม "เกียร์ว่าง": คือ "ไม่ยอมดำเนินการตามแผนงานที่วางไว้ หรืออาจจะหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ"
  3. การวางแผนผิดพลาด: เช่น "การคาดการณ์ผิดพลาด ขาดความรู้ หรือตั้งใจหมกเม็ด" ทำให้เกิดปรากฏการณ์ "ทำ งาน เสร็จ แต่ ไม่ ประสบ ผล สำเร็จ"

การป้องกันและแก้ไข: กลไกธรรมาภิบาลที่ดี

การป้องกันและแก้ไขปัญหาเหล่านี้ต้องมีกลไกระบบธรรมาภิบาลที่ดี ประกอบด้วย:

  • กลไกภายในระบบปฏิบัติการ: ต้องมี "ระบบการให้คุณให้โทษบุคลากรภาครัฐตามผลงานและผลสำเร็จ"
  • กลไกภายนอกระบบปฏิบัติการ:ต้องจัดทำข้อมูลการเงินการคลังของรัฐให้ครบถ้วนสมบูรณ์และ "ต้องเปิดเผยต่อสาธารณชน"
  • "องค์กรตรวจสอบภาครัฐและองค์กรตรวจสอบในภาคประชาชนและสื่อมวลชนต้องมีสิทธิ์และต้องทำหน้าที่ในการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินของหน่วยงานภาครัฐ"

กลไกและกระบวนการควบคุมด้านการเงิน: ระบบ GFMIS

กลไกหลักที่ใช้ในการควบคุมด้านการเงินในปัจจุบันคือ ระบบ GFMIS (Government Fiscal Management Information System) หรือที่เรียกว่า "ระบบ GF"

  • เริ่มต้นปีงบประมาณ: สำนักงบประมาณจะส่งข้อมูลตัวเลขงบประมาณที่จัดสรรให้หน่วยงานต่างๆ ไปยังกรมบัญชีกลาง (ข้อมูลนี้เรียกว่า BIS)
  • บันทึกข้อมูล: กรมบัญชีกลางจะป้อนข้อมูลตัวเลขงบประมาณที่จัดสรรให้แต่ละหน่วยงานลงในระบบ GFMIS เพื่อใช้ในการควบคุมด้านการเงิน
  • การมอบอำนาจ: หากหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณ (เช่น กรมในส่วนกลาง) ต้องการมอบอำนาจการบริหารงบประมาณต่อให้หน่วยปฏิบัติงานในพื้นที่ (เช่น หน่วยงานในสังกัดระดับจังหวัด หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) สามารถทำได้โดยต้องแจ้งสำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางทราบก่อน
  • การก่อหนี้ผูกพัน (การจัดซื้อจัดจ้าง): เป็นขั้นตอนที่หน่วยบริหารงบประมาณจัดหาทรัพยากรมาใช้ในการจัดบริการสาธารณะ เช่น จ้างคน ซื้อวัสดุ หรือจ้างเหมาบริการต่างๆ โดยต้องปฏิบัติ "ตามระเบียบกฎหมาย" และดำเนินการผ่านระบบ GFMIS เป็นหลัก (มีข้อยกเว้นสำหรับรายการย่อยเพื่อความคล่องตัว) หน่วยงานต้องก่อหนี้ผูกพันให้เป็นไปตามรายการงบประมาณที่บันทึกไว้ในระบบ GFMIS เท่านั้น
  • การเบิกจ่ายเงินเพื่อชำระหนี้: ระบบการเงินการคลังของไทยเป็นระบบรวมศูนย์ โดย "กรมบัญชีกลางเป็นผู้ถือเงินและควบคุมการเบิกจ่ายเงินงบประมาณแต่เพียงผู้เดียว" หน่วยงานภาครัฐไม่มีเงินอยู่ในมือ แต่รับมอบอำนาจให้ก่อหนี้ผูกพัน เมื่อจัดซื้อหรือจ้างแล้ว "ก็ต้องขอให้กรมบัญชีกลางเป็นผู้จ่ายหนี้ให้ หรือขอเบิกเงินจากกรมบัญชีกลางเพื่อนำมาใช้หนี้ให้แก่เจ้าหนี้งบประมาณ โดยผ่านระบบ GFMIS" ระบบ GFMIS จะตรวจสอบความถูกต้องก่อนดำเนินการ
  • ความสำเร็จและความล้มเหลว: "การบริหารงบประมาณให้ประสบผลสำเร็จนั้นต้องอาศัยความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยงาน ตลอดจนถึงข้าราชการและบุคลากรของรัฐทุกคนต้องรับผิดชอบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของตนเอง" ในทางตรงกันข้าม "ความล้มเหลวในการบริหารงบประมาณ ซึ่งแสดงออกมาในรูปแบบต่างๆ เช่น นโยบายของรัฐไม่ประสบผลสำเร็จ การทุจริตคอร์รัปชั่น และการเกิดค่าโง่จากโครงการพัฒนาต่างๆ ของรัฐนั้น ก็ล้วนแต่เกิดจากการที่หน่วยงานของรัฐและบุคลากรของรัฐไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้เต็มความสามารถ"

บทสรุป

การบริหารงบประมาณเป็นกระบวนการที่มีความสำคัญ ซับซ้อน และต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน รวมถึงระบบและกลไกการควบคุมที่เข้มแข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ระบบ GFMIS ในการควบคุมทางการเงิน และกลไกธรรมาภิบาลทั้งภายในและภายนอก เพื่อให้มั่นใจว่าการใช้จ่ายเงินภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และบรรลุเป้าหมายตามนโยบายที่วางไว้ ปัญหาความล้มเหลวและการทุจริตมักเกิดจากการไม่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ของบุคลากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง.

สำหรับบทนี้ ให้ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับการบริหารงบประมาณภาครัฐในประเทศไทย โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญ ความซับซ้อน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กลไกควบคุม และปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จหรือความล้มเหลวของการบริหารงบประมาณ

วัตถุประสงค์การเรียนรู้

หลังจากศึกษาเนื้อหานี้แล้ว คุณควรจะสามารถ:

  • อธิบายความสำคัญและความซับซ้อนของการบริหารงบประมาณภาครัฐได้
  • ระบุและอธิบายบทบาทของหน่วยงานหลัก 4 ประเภทที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการงบประมาณ
  • ระบุวัตถุประสงค์หลัก 2 ประการของการบริหารงบประมาณ
  • อธิบายกลไกการบริหารงบประมาณ 2 ระบบที่ใช้ในการบรรลุวัตถุประสงค์
  • ระบุและอธิบายปัจจัยเสี่ยง 3 ประการที่ทำให้การบริหารแผนงานล้มเหลว
  • อธิบายแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาความล้มเหลวในการบริหารงบประมาณ รวมถึงบทบาทของธรรมาภิบาล
  • อธิบายวัตถุประสงค์ 2 ประการของการควบคุมทางการเงิน
  • อธิบายการทำงานของระบบ GFMIS ในการควบคุมทางการเงิน รวมถึงขั้นตอนสำคัญในการก่อหนี้ผูกพันและการเบิกจ่ายเงิน
  • สรุปความรับผิดชอบร่วมกันของหน่วยงานและบุคลากรภาครัฐในการบริหารงบประมาณ

คำถาม 10 ข้อ แบบปรนัย

โปรดตอบคำถามแต่ละข้อด้วยประโยค 2-3 ประโยค

  1. เหตุใดการบริหารงบประมาณจึงมีความสำคัญมากที่สุดในกระบวนการงบประมาณภาครัฐ และมีความซับซ้อนมากกว่าขั้นตอนอื่นอย่างไร?
  2. หน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณ (กรมและหน่วยงานผู้ใช้เงิน) มีหน้าที่หลักในการบริหารงบประมาณอย่างไร?
  3. กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลาง มีบทบาทสำคัญอย่างไรในกระบวนการบริหารงบประมาณในฐานะ "หน่วยบริหารการเงิน"?
  4. วัตถุประสงค์หลัก 2 ประการของการบริหารงบประมาณคืออะไร?
  5. อธิบายความแตกต่างระหว่างระบบควบคุมผลงานและประสิทธิภาพการจัดการ กับระบบการควบคุมทางการเงิน ในฐานะกลไกบริหารงบประมาณ
  6. ปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ "หน่วยนโยบาย" ที่อาจทำให้การบริหารแผนงานล้มเหลวคืออะไร?
  7. "พฤติกรรมเกียร์ว่าง" ของหน่วยปฏิบัติงานหมายถึงอะไร และส่งผลต่อความสำเร็จของการบริหารแผนงานอย่างไร?
  8. การจะป้องกันและแก้ไขปัญหาความล้มเหลวในการบริหารงบประมาณ ต้องมีกลไกธรรมาภิบาลที่ดีอย่างไรบ้าง?
  9. ระบบ GFMIS (ระบบ GF) มีบทบาทสำคัญอย่างไรในการควบคุมทางการเงิน และข้อมูล BIS เกี่ยวข้องอย่างไร?
  10. อธิบายแนวคิด "ระบบการเงินการคลังของรัฐไทยเป็นระบบรวมศูนย์" และผลกระทบต่อหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณในการบริหารเงิน

เฉลยคำถาม

  1. การบริหารงบประมาณมีความสำคัญมากที่สุดเนื่องจากมีผลกระทบโดยตรงต่อผลสำเร็จและประสิทธิภาพของการบริหารงานภาครัฐสูงสุด อีกทั้งมีโอกาสเกิดการทุจริตคอร์รัปชันได้มากที่สุด ความซับซ้อนเกิดจากมีหน่วยงานเกี่ยวข้องหลายแห่งและมีระบบปฏิบัติการที่เชื่อมโยงกันหลายระบบ
  2. หน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณ หรือที่เรียกว่าหน่วยปฏิบัติงาน มีหน้าที่ใช้เงินหรือก่อหนี้ผูกพันเพื่อผลิตและส่งมอบบริการให้แก่ประชาชนตามแผนงานที่กำหนดไว้ ซึ่งเป็นบทบาทหลักในการนำงบประมาณไปปฏิบัติจริง.
  3. กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ในฐานะหน่วยบริหารการเงิน มีหน้าที่ให้ความเห็นชอบในการก่อหนี้ผูกพัน การเบิกจ่ายเงิน และการชำระหนี้ตามความต้องการของหน่วยรับจัดสรรงบประมาณ นอกจากนี้ยังรับผิดชอบบริหารสภาพคล่องให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ.
  4. วัตถุประสงค์หลัก 2 ประการของการบริหารงบประมาณคือ การดำเนินการเพื่อให้แผนงบประมาณประสบผลสำเร็จมากที่สุด และการควบคุมการใช้จ่ายเงินของรัฐให้มีประสิทธิภาพ ถูกต้องตามแผนงบประมาณ กฎหมาย ระเบียบ และปราศจากการทุจริตคอร์รัปชัน.
  5. ระบบควบคุมผลงานและประสิทธิภาพการจัดการเป็นกลไกควบคุมให้หน่วยปฏิบัติการผลิตและส่งมอบบริการให้ประชาชน และทำให้แผนงานสำเร็จตามที่กำหนดไว้ ในขณะที่ระบบการควบคุมทางการเงินมุ่งเน้นการควบคุมการใช้จ่ายเงินให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ.
  6. ปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับหน่วยนโยบายคือ การไม่ทำหน้าที่หรือทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์ เช่น กำหนดแผนยุทธศาสตร์หรือเป้าหมายไม่ชัดเจน ไม่มอบหมายงานครบถ้วน หรืออาจสมคบคิดกับหน่วยปฏิบัติการเพื่อแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ.
  7. พฤติกรรมเกียร์ว่างหมายถึงการที่หน่วยปฏิบัติงานไม่ดำเนินการตามแผนงานที่วางไว้ หรือหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบเพื่อความปลอดภัยของตนเองในกรณีที่อาจมีความเสี่ยง ทำให้งานไม่ก้าวหน้าหรือโครงการไม่ประสบผลสำเร็จ.
  8. การป้องกันและแก้ไขต้องมีกลไกธรรมาภิบาลที่ดี โดยมีกลไกภายในระบบปฏิบัติการ เช่น ระบบให้คุณให้โทษตามผลงาน และกลไกภายนอก เช่น การเปิดเผยข้อมูลการเงินการคลังต่อสาธารณะ และการให้องค์กรตรวจสอบทั้งภาครัฐและภาคประชาชนรวมถึงสื่อมวลชนมีสิทธิ์ตรวจสอบ.
  9. ระบบ GFMIS เป็นกลไกหลักในการควบคุมทางการเงิน โดยกรมบัญชีกลางจะป้อนข้อมูลตัวเลขงบประมาณที่จัดสรรให้หน่วยงานต่างๆ ลงในระบบฐานข้อมูลนี้ ข้อมูล BIS คือตัวเลขงบประมาณที่สำนักงบประมาณส่งให้กรมบัญชีกลางในตอนต้นปีงบประมาณเพื่อใช้ในการบันทึกเข้าระบบ GFMIS.
  10. ระบบการเงินการคลังของรัฐไทยเป็นระบบรวมศูนย์ หมายถึงกระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางเป็นผู้ถือเงินและควบคุมการเบิกจ่ายงบประมาณแต่เพียงผู้เดียว หน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณไม่มีเงินอยู่ในมือ แต่ได้รับมอบอำนาจให้ก่อหนี้ผูกพัน เมื่อมีการซื้อหรือจ้างแล้ว จึงต้องขอให้กรมบัญชีกลางเป็นผู้จ่ายเงินให้ผ่านระบบ GFMIS.
คำถามสำหรับเรียงความ
  1. วิเคราะห์ความสำคัญของการบริหารงบประมาณภาครัฐในเชิงที่ว่าทำไมจึงเป็น "หัวใจสำคัญ" ของกระบวนการงบประมาณทั้งหมด โดยอ้างอิงถึงผลกระทบต่อประสิทธิภาพภาครัฐและโอกาสในการทุจริตคอร์รัปชัน
  2. อธิบายบทบาทและความรับผิดชอบร่วมกันของหน่วยงานทั้ง 4 ประเภท (หน่วยนโยบาย หน่วยปฏิบัติงาน หน่วยจัดสรรและควบคุมงบประมาณ หน่วยบริหารการเงิน) ในการทำให้การบริหารงบประมาณประสบผลสำเร็จ ยกตัวอย่างหน้าที่ที่แตกต่างกันของแต่ละหน่วยงาน
  3. เปรียบเทียบและวิเคราะห์กลไกสองระบบที่ใช้ในการบริหารงบประมาณ (ระบบควบคุมผลงานและประสิทธิภาพการจัดการ และระบบการควบคุมทางการเงิน) โดยเน้นวัตถุประสงค์ กลไกการทำงาน และความสัมพันธ์กันในการบรรลุเป้าหมายของการบริหารงบประมาณ
  4. ระบุและอธิบายปัจจัยเสี่ยงสามประการที่ส่งผลให้การบริหารแผนงานล้มเหลว พร้อมเสนอแนวทางแก้ไขและป้องกันปัญหาเหล่านั้น โดยเน้นถึงบทบาทของธรรมาภิบาลที่ดี
  5. อธิบายการทำงานของระบบ GFMIS ในฐานะเครื่องมือหลักในการควบคุมทางการเงินของการบริหารงบประมาณภาครัฐ โดยอธิบายตั้งแต่ขั้นตอนการนำข้อมูลเข้า การก่อหนี้ผูกพัน และการเบิกจ่ายเงิน รวมถึงบทบาทของกรมบัญชีกลางในระบบนี้

อภิธานศัพท์

  • การบริหารงบประมาณ (Budget Management): กระบวนการจัดการและควบคุมการใช้จ่ายเงินของรัฐให้เป็นไปตามแผนที่กำหนด กฎหมาย ระเบียบ และบรรลุวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส.
  • กระทรวงการคลัง (Ministry of Finance): หน่วยงานภาครัฐที่มีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลนโยบายการเงินการคลังของประเทศ รวมถึงการบริหารงบประมาณ.
  • สำนักงบประมาณ (Bureau of the Budget): หน่วยงานที่มีหน้าที่จัดสรรและกระจายงบประมาณให้แก่หน่วยงานภาครัฐต่างๆ รวมถึงให้ความเห็นชอบในการเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณ.
  • กรมบัญชีกลาง (Comptroller General's Department): หน่วยงานภายใต้กระทรวงการคลัง มีหน้าที่บริหารการเงินของแผ่นดิน เช่น การให้ความเห็นชอบการก่อหนี้ผูกพัน การเบิกจ่ายเงิน และการชำระหนี้ รวมถึงบริหารสภาพคล่อง.
  • หน่วยนโยบาย (Policy Unit): หน่วยงานที่มีหน้าที่กำหนดแผนยุทธศาสตร์และนโยบาย ควบคุมดูแลให้หน่วยปฏิบัติการดำเนินงานตามแผนงานที่กำหนด เช่น กระทรวงหรือหน่วยงานเจ้าภาพยุทธศาสตร์.
  • หน่วยปฏิบัติงาน (Operating Unit): หน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณ มีหน้าที่ใช้เงินหรือก่อหนี้ผูกพันเพื่อผลิตและส่งมอบบริการให้แก่ประชาชน เช่น กรมหรือหน่วยงานในพื้นที่.
  • หน่วยจัดสรรและควบคุมงบประมาณ (Budget Allocation and Control Unit): หน่วยงานที่ทำหน้าที่จัดสรรงบประมาณและให้ความเห็นชอบในการปรับเปลี่ยนงบประมาณตามความต้องการของหน่วยงานรับจัดสรรงบประมาณ เช่น สำนักงบประมาณ.
  • หน่วยบริหารการเงิน (Financial Management Unit): หน่วยงานที่ดูแลเรื่องการเงิน การเบิกจ่าย และการชำระหนี้ เพื่อให้การบริหารงบประมาณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น กรมบัญชีกลาง.
  • ระบบควบคุมผลงานและประสิทธิภาพการจัดการ (Performance and Efficiency Control System): กลไกที่ใช้ควบคุมให้หน่วยปฏิบัติการผลิตและส่งมอบบริการตามแผนงานที่กำหนด และเพื่อให้แผนงานบรรลุผลสำเร็จ.
  • ระบบการควบคุมทางการเงิน (Financial Control System): กลไกที่ใช้ควบคุมการใช้จ่ายเงินของรัฐให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ถูกต้องตามแผนงาน กฎหมาย และระเบียบ.
  • ธรรมาภิบาล (Good Governance): หลักการบริหารจัดการที่ดีที่ส่งเสริมความโปร่งใส ความรับผิดชอบ ความยุติธรรม และประสิทธิภาพในการดำเนินงานของภาครัฐ.
  • GFMIS (Government Fiscal Management Information System) หรือ ระบบ GF: ระบบฐานข้อมูลและกลไกหลักที่ใช้ในการควบคุมทางการเงินในระบบงบประมาณของไทย เพื่อจัดการการก่อหนี้ผูกพันและการเบิกจ่ายเงิน.
  • BIS (Budget Information System): ข้อมูลตัวเลขงบประมาณที่สำนักงบประมาณจัดสรรให้กับหน่วยงานต่างๆ และส่งให้กับกรมบัญชีกลางเพื่อบันทึกลงในระบบ GFMIS.
  • การก่อหนี้ผูกพัน (Commitment): กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง หรือการสั่งซื้อสั่งจ้างเพื่อจัดหาสินค้า บริการ หรือบุคลากรมาใช้ในการดำเนินงานตามแผนงาน.
  • การเบิกจ่ายเงิน (Disbursement): กระบวนการขอรับเงินจากกรมบัญชีกลางเพื่อนำไปชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้งบประมาณหลังจากมีการก่อหนี้ผูกพันแล้ว.
  • ระบบรวมศูนย์ (Centralized System): ระบบการเงินการคลังที่กระทรวงการคลัง (โดยกรมบัญชีกลาง) เป็นผู้ถือเงินและควบคุมการเบิกจ่ายงบประมาณแต่เพียงผู้เดียว หน่วยงานอื่นไม่มีเงินอยู่ในมือโดยตรง.

Comments

Most viewed blogs

Useful links (updated: 2025-07-20)

Genome editing technology short note

Umbrella vs Basket Trial